แชร์

รีวิว Mibro Watch A2 สปอร์ตได้ทุกสไตล์ ฟังก์ชันจัดเต็ม

อัพเดทล่าสุด: 2 ต.ค. 2024

     ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ในยุคนี้นาฬิกาสมาร์ทวอทช์มีบทบาทกับชีวิตของเรามากๆ เพราะไม่ใช่แค่จะใส่เพื่อดูแลสุขภาพเพียงอย่างเดียว ด้านฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมไปถึงดีไซน์ที่ตรงใจ เข้ากับสไตล์การแต่งตัว สำหรับสมาร์ทวอทช์ที่เราจะมารีวิวในวันนี้ จะอยู่ในหมวดหมู่ดีไซน์แบบ Sport Watch ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆของโลก และวันนี้ผมได้มารีวิวแล้วกับ Mibro Watch A2 นาฬิการุ่นใหม่จากทาง Mibro รอบนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันแบบจุกๆ จนต้องหยิบมารีวิวในวันนี้ ถ้าอย่างงั้นไปดูกันเลยดีกว่า

ก่อนไปดูตัวจริง พาทัวร์รอบกล่องกันก่อนดีกว่า


     ในรอบนี้ Mibro ได้เปลี่ยนรูปแบบกล่องมาใหม่ มาในโทนสีขาวๆเทาๆ โดยที่หน้ากล่องจะมีหน้าตาของเจ้า Mibro Watch A2 แบบเต็มเรือน พร้อมโลโก้ Dual-Core 2 in 1 และ Bluetooth Calling ซึ่งนั้นหมายความว่านาฬิการุ่นนี้ ต้องมีความลื่นไหลของหน้าจอเหมือนรุ่นแพงๆแน่ๆ อีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจ ที่ไม่คิดว่าเค้าจะกล้าใส่มาให้ในสมาร์ทวอร์ชราคาประมาณนี้ด้วยก็คือ Bluetooth Calling เพราะปกติแล้วมักจะเจอในรุ่นที่มีราคา สูงกว่านี้มากๆ จุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ หน้ากล่องจะมีการโชว์มาเลยว่ารุ่นนี้มีสายมาให้ใช้งานถึง 2 เส้น

     ด้านข้างของกล่อง จะมีรายละเอียดของนาฬิกาแบบคร่าวๆ ไล่ตั้งแต่ ชิปเซ็ต 2 in 1 , Bluetooth Calling , หน้าจอ 1.39 นิ้ว แบบ HD , 4PD Heart rate Sensor พอพลิกมาอีกด้านจะมีรายละเอียดที่พูดถึงเกี่ยวกับ ดีไซน์ตัวเรือนว่าเป็นแบบสปอร์ต , โหมดออกกำลังกาย 70 โหมด , มาตรฐานการกันน้ำ 2ATM , อายุแบตเตอรี่ 10 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สำหรับด้านหลังของกล่อง มีรายละเอียดรุ่นของ Bluetooth ว่าเป็น 5.3 รวมถึงอุปกรณ์ภายในกล่องว่ามีอะไรมาให้บ้าง

งั้นมาเริ่มแกะกล่องกันเลยดีกว่า

     กล่องของเจ้า Mibro Watch A2 จะเป็นแบบสไลด์เปิด สิ่งที่จะเจอก่อนเลยก็คือ หน้าจอของนาฬิกา ให้ดึงตรงจุดที่เค้าทำไว้ให้ดึง จะสามารถเอานาฬิกาออกมาได้แบบง่ายๆเลย ข้างในกล่องจะมีนาฬิกาที่เป็นพระเอกของการรีวิวในครั้งนี้ และจะมีสายนาฬิกาที่เป็นสายผ้ามาให้อีก 1 เส้น สำหรับในเรื่องของสายนาฬิกา ขอเริ่มที่เจ้าสายซิลิโคนที่ติดมากับนาฬิกาก่อนเป็นอันดับแรก ผิวสัมผัสนุ่มดีในระดับนึงเลย แต่ไม่ถึงกับนุ่มมากขนาดนั้น แต่คาดว่าถ้าใส่ไปสักพักสายจะนุ่มกว่านี้แน่ ส่วนสายผ้าลองจับๆแล้วนุ่มมาก ถ้าใส่แบบจริงๆจังๆน่าจะสบายข้อมือมากแน่ๆ ในด้านของสายชาร์จที่ให้มาจะเป็นแบบแม่เหล็ก แรงดูดนั้นถือว่าใช้ได้เลย เวลาใช้งานจะได้ไม่หลุดง่ายๆ และอย่างสุดท้ายที่ทุกคนน่าจะไม่ค่อยได้หยิบมาอ่าน ซึ่งรวมถึงผมด้วยก็คือ คู่มือการใช้งานนั้นเอง แต่ว่าไม่มีภาษาไทยในคู่มือนะบอกไว้ก่อน

เรามาคุยกันเรื่องความรู้สึกของการสวมใส่ ความรู้สึกครั้งแรกหน่อยดีกว่า

     ความรู้สึกครั้งแรกที่เห็นตัวนาฬิกาจริงๆ ก็คือดีไซน์เท่นะ มีกลิ่นอายของ Mibro Watch GS กับ Watch X1 ในเรื่องของดีไซน์ที่มีความสปอร์ตมากๆ ตัวขอบตัวเรือนจะเป็นวัสดุโลหะซึ่งให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานแน่ๆ ส่วนตัวเรือนจะเป็นวัสดุผสมโดยที่ทางแบรนด์แจ้งว่าเป็นวัสดุ Plastic cement ส่วนตัวจากที่ได้ลองใช้งานเป็นรอยยากมาก จากที่ลองใช้งานมากสักระยะไม่เป็นรอยอะไรเลย ทั้งๆที่ใส่แบบไม่ระวัง สำหรับเรื่องของสายนาฬิกา สายซิลิโคนโอเคเลยตามสไตล์สายของ Mibro แต่ที่ประทับประทับใจมากที่สุดคือสาย ผ้าที่เค้าแถมมาให้ นุ่มมากๆ ใส่สบายสุดๆไปเลย แต่ข้อระวังของสายตัวนี้ก็คือ ด้วยความที่เค้าเป็นสายผ้าถ้าเป็นคนเหงื่อออกเยอะ หรือโดนน้ำบ่อยๆ ควรถอดและตากสักหน่อย เพื่อป้องกันความชื้นสะสม หากใครไม่ชอบสายที่ทางแบรนด์เค้าแถมมาให้ก็สามารถหาเปลี่ยนได้ง่าย เพราะตัวนี้ใช้สายขนาด 22 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นสายขนาดมาตรฐาน ที่หาได้ง่ายตามท้องตลาด น้ำหนักของตัวนาฬิกาเบาดี ใส่สบายๆ ไม่หนักถ้าใครไม่ชอบนาฬิกาหนักๆ ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลย

ในด้านของสเปคเจ้า Mibro Watch A2

            ต้องบอกเลยว่าในราคาประมาณนี้ แต่ให้ฟังก์ชันการใช้งานมาล้นๆเลย เท่าๆกับรุ่นพี่ หรือแบรนด์อื่นๆ ได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการโทรเข้า โทรออก ความลื่นไหลในการใช้งาน
            • Bluetooth Calling สามารถรับสาย, โทรออกโดยการกดเบอร์ หรือเลือกเบอร์ที่เมมไว้ได้
            • หน่วยประมวลผล Dual-Core แบบ 2 in 1 ที่ฝั่งตัว Bluetooth 5.3 ไว้ในตัว
            • หน้าจอขนาด 1.39 นิ้ว 60Hz ชนิดหน้าจอแบบ TFT ค่า PPI อยู่ที่ 391
            • กันน้ำมาตรฐาน 2ATM หรือประมาณ 20 เมตร
            • มีโหมดออกกำลังกายมาให้ประมาณ 70 โหมด
            • Sensor วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และวัดออกซิเจนในเลือด
            • สามารถบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับประจำเดือน และช่วยเตือนได้
            • แบตเตอรี่ขนาด 350mAh รองรับการใช้งานได้ 10 วัน

รายละเอียดการทดสอบที่ได้ลองใช้งานมาสักพัก

     เริ่มด้วยหน้าจอ ขนาดกำลังดีเลย ไม่ใหญ่ไป และไม่เล็กไป ความละเอียดหน้าจอคมชัดดี ทำออกมาได้ดีกว่า TFT ทั่วไปตามท้องตลาด หรือพวกที่อยู่ในเรทเดียวกัน ความสว่างของหน้าจอสามารถสู้แสงได้ดี หน้าปัดมีให้เลือกใช้งานพอประมาณ หากใครที่ไม่ชอบหน้าปัดที่เค้าให้มา ก็สามารถเพิ่มรูปภาพที่ต้องการเข้าไปได้ ตัวนี้มี Always-On Display มาให้ด้วย แต่ก็จะกินแบตเตอรี่พอสมควรเลย การสัมผัสทำได้ดีมาก ลื่นไหลตามนิ้วดีมาก ตามที่เค้าเคลมมาเลยว่ามีค่า Refresh Rate อยู่ที่ 60Hz ตัว UI ที่ให้มากับรุ่นนี้สวย และมีลูกเล่นใหม่ๆเข้ามาเยอะ โดยเฉพาะหน้าปัดที่ขยับได้เวลาเปิดหน้าจอต่างๆ โดยรวมในเรื่องของหน้าจอถือว่าสอบผ่าน ใช้งานได้ดี ตามสนองได้ไวมากๆ

     การโทรเข้า หรือโทรออกผ่านนาฬิกาใช้งานได้ดีพอประมาณ ไมโครโฟน หรือลำโพงไม่ได้ดีถึงขั้นดีมาก อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ ถ้าอยู่ในสถานที่เสียงรบกวนเยอะๆ อาจจะมีเสียงแทรกเข้ามาได้ รวมไปถึงเสียงที่เราได้ยินจากคู่สนทนา ก็ต้องยกขึ้นมาใกล้กับหูมากขึ้น สำหรับฟังก์ชันนี้ ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth กับตัวนาฬิกาด้วย เพราะเค้าจะทำงานคล้ายๆ กับหูฟังไร้สายเลย ข้อจำกัดของการโทรผ่านนาฬิกาก็คือ ไม่สามารถรับสาย หรือโทรออกผ่านแอปพลิเคชันได้ ต้องใช้การโทรผ่านเบอร์โทรศัพท์เท่านั้น

     ส่วนเรื่องการแจ้งเตือนภาษาไทยจากที่ได้ลองมาไม่มีการกระโดดของภาษา ตัวฟอนต์อ่านง่ายดี ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ว่าไม่สามารถกดตอบกลับ หรือดูรูปภาพได้นะ อันนี้เป็นการทดสอบจากแอปพลิเคชันหลักๆ อาทิ Gmail , Line , Facebook และ Instagram โดยรวมถือว่าโอเคเลย ใช้งานได้ดีในจังหวะที่เราไม่สามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูได้ เช่น กำลังประชุมอยู่ หรือกำลังขับรถ (แอบกระซิบว่า ในแอปฯอย่าง Facebook Messenger เวลามีคนส่งข้อความมาแล้วกดยกเลิก ข้อความก็ยังขึ้นอยู่บนหน้าจอด้วยนะ)

     ในด้านของการวัดสุขภาพเจ้า Mibro Watch A2 ถือว่าให้มาครบกำลังพอดี ซึ่งเป็นฟังก์ชันด้านสุขภาพที่ทุกสมาร์ทวอร์ชควรมี อาทิ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ , วัดออกซิเจนในเลือด , ตรวจวัดการนอนหลับ , ฟังก์ชันการออกกำลังกาย และฟังก์ชันการตรวจวัดเกี่ยวกับประจำเดือน ทั้งหมดนี้เป็นการตรวจวัดเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่สามารถเทียบกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ แต่สามารถตรวจเช็ดได้ว่าถ้าในค่าต่างๆมีการผิดปกติ ก็ช่วยให้เรารู้ก่อนได้ และรีบไปตรวจอย่างละเอียดกับโรงพยาบาล ฟังก์ชันด้านสุขภาพนี้จากการที่ได้ทดสอบมา สิ่งที่ชอบที่สุดคือ เค้าสามารถปรับระดับความถี่ในการตรวจวัดได้ ซึ่งเราจะพอรู้ได้เลยว่า ช่วงไหนของแต่ละวัน เราใช้ร่างกายยังไงบ้าง ใช้งานหนักไปมั้ย ควรจะพักผ่อนมั้ย อันนี้ถือว่าดีมากๆ ฟังก์ชันด้านสุขภาพ ถ้าใครอยากดูแบบละเอียด ต้องดูผ่านตัวแอปฯ ของเค้าเท่านั้นนะ เพราะในนาฬิกาจะบอกได้ไม่หมด

     สำหรับแอปพลิเคชัน Mibro Fit จากที่ได้ลองใช้งาน เมนูต่างๆใช้งานง่ายดี ข้อดีคือในเรื่องของสุขภาพเค้าบอกได้ละเอียดดี อย่างที่อธิบายไปในเรื่องของสุขภาพ แต่ข้อที่ยังขัดใจหน่อยคือหน้าจอมีให้เลือกน้อยไปหน่อย ใครที่เป็นสายเปลี่ยนหน้าจอบ่อยๆ อาจจะไม่ถูกใจแน่ๆ และการอัปโหลดหน้าจอช้า ต้องใช้เวลาสักพัก ถึงจะอัปโหลดเสร็จ แต่ข้อดีของเค้าคือ มีอัปเดทเฟิร์มแวร์บ่อย ซึ่งส่วนตัวมองว่าดี เพราะเค้าจะได้แก้ไข หรือปรับปรุงในส่วนต่างๆให้ดีมากยิ่งขึ้น

     การกันน้ำก็ทำออกมาได้ดีเลย สามารถกันน้ำได้ 2ATM ใส่ลุยฝนได้ , ใส่ตอนล้างมือ หรืออาบน้ำได้สบายๆ จากที่ได้ใส่ทดสอบมา ยังไม่เจอปัญหาน้ำเข้าเครื่องเลย ซึ่งถือว่าตรงตามกับที่เค้าเคลมเอาไว้ แต่ก็มีข้อที่ยังอยากให้เพิ่มอีกนิดนึงคือ อยากให้มีการกันน้ำที่มากกว่านี้ ถ้าเป็นไปได้ 5ATM จะถือว่าดีเลย เพราะว่าน่าจะตอบโจทย์กับผู้ที่ชอบว่ายน้ำ หรือใส่ใช้งานกับกิจกรรมที่หนักมากๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น

     ว่าด้วยเรื่องของแบตเตอรี่ต่อการใช้งานในแต่ละวันบ้างดีกว่า ทางแบรนด์บอกว่าใช้งานได้ 10 วัน จากการใช้งานจริงจะอยู่ประมาณ 4-5 วัน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เพราะอย่างของเราจะมีข้อความการแจ้งเตือนที่เยอะมากตลอดทั้งวัน เราลองใส่ไปเที่ยวต่างจังหวัด 2-3 วัน ก็ไม่ต้องพกสายชาร์จเลยอยู่ได้สบายๆ กลับมาบ้านก็ค่อยชาร์จ การชาร์จก็ถือว่าง่ายดีเป็นที่ชาร์จแบบแม่เหล็ก พอร์ตชาร์จอีกด้านเป็น USB-A แต่ในกล่องไม่มีหัวชาร์จมาให้ เราใช้กับหัวชาร์จเก่าๆ ที่มีอยู่ในบ้านก็ชาร์จได้ปกติไม่มีปัญหาอะไรเลย

สรุป
     จากที่ได้ลองใช้งานมาโดยรวมถือว่าดีมาก ถ้ามองในมุมว่านาฬิการุ่นนี้มีค่าตัวหลักพันกลางๆ เมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ให้มา ฟังก์ชันต่างๆใช้งานได้จริง แต่ก็ยังมีบางจุดที่อาจจะไม่ได้ดีมากเท่าที่ควร สิ่งที่ชอบของเจ้า Mibro Watch A2 ก็จะมีในเรื่องของหน้าจอที่ใหญ่คมชัด และลื่นไหลดี ตอบสนองการใช้งานได้ตามมือ ไม่หน่วงเลย ดีไซน์ตัวนาฬิกาก็สวยใครๆก็ใส่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ สายนาฬิกาที่ให้มาโอเคมากๆ โดยเฉพาะสายผ้า และเค้าเปลี่ยนเอาสายขนาด 22 มิลลิเมตรเส้นอื่นๆมาใส่ได้ด้วย อันนี้ดีมากเปลี่ยนใส่ให้เข้ากับชุดในแต่ละวันได้เลย สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่ทำออกมาได้ดี ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ ส่วนเรื่องที่อยากให้ปรับ หรือเพิ่มเข้ามาก็คือเรื่องของลำโพงที่เบาไปนิดนึง ถ้าดังขึ้นมาอีกนิดนึงจะดีมาก แต่น่าจะปรับไม่ได้แล้วเพราะเป็นเรื่องของฮาร์ดแวร์ที่ใส่มา และอีกเรื่องคือการกันน้ำ ถ้าใครชอบลุยๆ ใส่ว่ายน้ำ อาจจะต้องถอดหรือระวังสักนิดนึง
     สำหรับคะแนนที่เราจะให้นาฬิกา Mibro Watch A2 มีดังนี้
        • การสวมใส่ 4 / 5
        • ดีไซน์ , ความสวยงาม และวัสดุ 4 / 5
        • การใช้งาน 4 / 5
        • ราคา 3 / 5
        • ความคุ้มค่า 4 / 5


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy